กู้ซื้อคอนโดมาแล้ว แต่เริ่มผ่อนดอกเบี้ยไม่ไหว ผ่อนยังไง ต้นก็ดูไม่ลดเลย??? สบายแคปปิตอล จะมาแนะนำให้รู้จักกับการรีไฟแนนซ์คอนโด! มันคืออะไร ต่างจากการกู้ปกติหรือไม่ แตกต่างกับรีไฟแนนซ์บ้านไหม ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปยื่นบ้าง ตามไปอ่านกันได้ในบทความนี้

รีไฟแนนซ์คอนโดคืออะไร

   การรีไฟแนนซ์คอนโดและรีไฟแนนซ์บ้านเหมือนกัน เพราะสิ่งที่ยื่นกู้นั้นเป็นที่อยู่อาศัย โดยความหมายของการรีไฟแนนซ์นั้นคล้าย กับการขอทำสินเชื่อใหม่กับทางธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ อาจเป็นธนาคารเดิมหรือที่ใหม่เลยก็ได้ หรือหากจะให้พูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ กู้ก้อนใหม่มาโปะก้อนเก่า ด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า หรือข้อเสนอที่ดีกว่าของปัจจุบัน เช่น ระยะเวลาผ่อน หรือให้เงินวงกู้เพิ่มขึ้นเพื่อเอาไปรีโนเวทหรือทำธุรกิจต่อยอด

   เพราะโดยปกติแล้วธนาคารส่วนมากจะให้ดอกเบี้ยถูกใน 3 ปีแรกเท่านั้น และปีถัดไปดอกเบี้ยก็จะดีดขึ้นมา อาจจะเท่าตัวหรือมากกว่า ตามแต่ละที่ การรีไฟแนนซ์จึงเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกัน เพื่อจะได้มีสภาพคล่องในการใช้เงินมากขึ้น

รีไฟแนนซ์คอนโด ทำได้ตอนไหน

   ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินโดยส่วนใหญ่แล้ว จะระบุว่า ผู้ยื่นกู้จะต้องผ่อนมาแล้วทั้งหมดอย่างน้อย 36 งวด หรือ 3 ปีนั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วหากคุณต้องการที่จะยื่นรีไฟแนนซ์ก่อนหน้านั้น ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเสียค่าปรับ 2-3% ของยอดหนี้คงเหลือ (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสัญญาเงินกู้ – ต้องติดต่อธนาคารของคุณเพื่อยืนยันข้อมูล) 

เตรียมตัวยังไง ก่อนรีไฟแนนซ์คอนโด

1. ตั้งสติและหาข้อมูล

   ที่ต้องบอกว่า ตั้งสติ นั้นเพราะว่า หากคุณเริ่มจากศูนย์ ไม่เคยยื่นกู้มาก่อน การหาข้อมูลเหล่านี้อาจจะทำให้คุณปวดหัวและอยากล้มเลิกไปซะดื้อ ๆ

   คุณต้องค่อยๆ ศึกษาข้อมูลตามเว็บต่าง ๆ แบบทั่วไปก่อน หรือหากไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ลองใช้ประโยชน์จาก AI ในการถามหาข้อมูลก็ดีไม่น้อย อาจจะเริ่มคุยกับ AI ว่าเราอยากยื่นรีไฟแนนซ์ เรามีเงื่อนไขอย่างไร เช่น คอนโดเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง อยากได้ข้อเสนอแบบไหน ระบบพวกนี้จะส่งข้อมูลเบื้องต้น เข้าใจง่ายมาให้เรา หรืออาจจะศึกษาตาม Youtube เราขอแนะนำให้คุณหาข้อมูลตั้งแต่เนิ่น ๆ ล่วงหน้าสัก 3 เดือนก่อนตัดสินใจยื่นรีไฟแนนซ์ จะทำให้คุณตัดสินใจได้อย่างใจเย็น

2. เริ่มตั้งคำถามที่เป็นประโยชน์กับการยื่นกู้ และหาข้อมูลรอบที่สอง

   จากนั้นพอคุณรู้สึกว่า คุณพอจะเข้าใจความหมาย ข้อดี ข้อเสียแล้ว ให้คุณลองรวบรวมคำถาม-คำตอบที่เป็นประโยชน์ ลงใน Google sheet หรือ Excel, Notion หรืออื่น ๆ ตามที่ถนัด คุณสามารถตั้งคำถามเพิ่มได้ เพื่อที่จะเอาไปหาข้อมูลในรอบที่สอง ลงลึกมากขึ้น มีรายละเอียดมากขึ้น เริ่มโทรหาธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คุณสนใจ และถามรายละเอียด แล้วนำมาใส่ใน sheet ของคุณ

   สบายใจ แคปฯ ขอแนะนำให้คุณโทรถามทั้งธนาคารเดิม ในการขอลดดอกเบี้ย หรือที่เรียกว่า รีเทนชั่น (Retention) และโทรหาธนาคารใหม่ เพื่อถามข้อมูลรีไฟแนนซ์ต่างๆ  และนำข้อมูลทั้งหมดมาเปรียบเทียบ ว่าแบบไหนที่คุ้มค่ากับคุณ และสภาพคล่องทางการเงินของคุณมากที่สุด

   ทั้งนี้ข้อมูลที่ควรหาหรือนำมาเปรียบเทียบนั้น คือ ดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน สามารถให้วงเงินกู้เพิ่มได้ไหม (หากคุณต้องการ) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ค่าทำประกันใหม่ ค่าเอกสารต่าง ๆ ทั้งหมด

รีไฟแนนซ์คอนโด-2

ค่าใช้จ่ายในการยื่นรีไฟแนนซ์

ก่อนจะไปสู่ขั้นตอนการเตรียมเอกสารและการยื่นรีไฟแนนซ์นั้น คุณควรมาพิจารณาก่อน โดยเรารวบรวมข้อมูลเบื้องต้นไว้ให้แล้วดังนี้

    1. ค่าจัดการสินเชื่อตามสัญญาใหม่ ประมาณ 0-1% ของวงเงิน
    2. ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของมูลค่าจำนอง
    3. ค่าประเมินราคาหลักประกัน ประมาณ 2,500 บาท-0.25% ของราคาประเมิน (บางธนาคารไม่เสียค่าใช้จ่าย)
    4. ค่าทำประกันอัคคีภัย ประมาณ 2,000 บาท ปกติจะทำทุก 1-3 ปี
    5. ค่าอากรแสตมป์ ประมาณ 0.05% ของวงเงิน
    6. ค่าเบี้ยประกัน MRTA (เป็นตัวเลือก จะทำหรือไม่ก็ได้)
    7. ค่าขอเอกสารหลักฐานแสดงรายได้ 6 เดือน ประมาณ 200 บาท ต่อ หนึ่งบัญชี
    8. ค่าธรรมเนียมอื่นๆ เป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร

ทั้งนี้ธนาคารหรือสถาบันการเงินหลายแห่ง อาจจะมีข้อเสนอ ในการยกเว้นค่าธรรมเนียมเหล่านี้ด้วย

3. เปรียบเทียบข้อมูล

   เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว สิ่งที่คุณต้องเปรียบเทียบก่อนเลยนั่นก็คือ ดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน หรือข้อเสนออื่น ๆ ที่ธนาคารเดิมของคุณเสนอมานั้น ดีและคุ้มค่ากว่าการรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่หรือไม่ หากใช่ ให้คุณไปยื่นรีเทนชั่นได้เลย เพราะว่าการรีเทนชั่นนั้นใช้เอกสารไม่กี่อย่าง ไม่เสียเวลามาก และสามารถทำได้ง่าย แต่หากว่า เมื่อคุณเปรียบเทียบแล้วพบว่า การรีไฟแนนซ์ดีกว่า ให้คุณ นำข้อมูลแต่ละที่ที่คุณหามา นำมาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยแต่ละปี เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ คุณมีกำลังจ่ายได้ไหม จากนั้นคุณก็สามารถเริ่มดำเนินขั้นต่อไป

4. เตรียมเอกสาร

เอกสารที่ต้องใช้การยื่นกู้รีไฟแนนซ์นั้นเหมือนกับการยื่นกู้ใหม่ โดย ต้องเตรียมดังนี้

1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล

        • สำเนาบัตรประชาชน
        • สำเนาทะเบียนบ้าน
        • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
        • สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ของคู่สมรส (ถ้ามี)
        • สำเนาทะเบียนสมรส/ หย่า (ถ้ามี)

2. เอกสารแสดงรายได้

2.1 หากเป็นพนักงานเงินเดือนให้เตรียมดังนี้
        • หลักฐานแสดงรายได้ของผู้กู้ (กี่เดือนแล้วแต่ธนาคารที่ยื่นกู้ โดยส่วนมากจะ 6 เดือน)
        • สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด (หากไม่มีสลิปเงินเดือน ให้ใช้หนังสือรับรองเงินเดือนอายุไม่เกิน 2 เดือน)
        • สำเนารับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
2.2.กรณีบุคคลที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
        • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า
        • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้/ผู้กู้ร่วม
        • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 12 เดือน (ทั้งในนามบุคคล และกิจการ)
        • สำเนา ภ.พ. 30 (ถ้ามี) หรือ ภงด. 50/51 ย้อนหลัง 5 เดือน (ถ้ามี)

* เอกสารอาจจะมีการขอเรียกเพิ่ม หรือรายละเอียดอื่น ๆ อาจแตกต่างกัน ตามธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ยื่นกู้

3.เอกสารด้านหลักประกัน

        • สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2 หน้าและหลัง
        • สำเนา สัญญาซื้อขายที่ดิน สำเนาสัญญาจดจำนอง
        • สำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน หรือ ถ้าผ่อนชำระแบบตัดค่างวดอัตโนมัติ ให้ใช้ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน
        • สำเนาสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินเดิมล่าสุด และสำเนาสัญญารีเทนชั่นเดิม (ถ้ามี)
รีไฟแนนซ์คอนโด-1

5. ยื่นกู้ ประเมินราคา

หลังจากเตรียมเอกสารแล้ว คุณสามารถยื่นกู้ได้เลย และหลังยื่นเอกสารประมาณ 1 สัปดาห์  จะเป็นขั้นตอนการสำรวจบ้าน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่โทรมา ขอนัดถ่ายรูปคอนโด และเมื่อขั้นตอนนี้เสร็จ ทางสถาบันการเงินก็จะนำข้อมูลทั้งหมดไปพิจารณา และประเมินวงเงินกู้ให้

6. ยื่นไถ่ถอน

   หลังจากคุณได้วงเงินกู้แล้ว พร้อมที่จะทำรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ คุณต้องไปยื่นปิดสัญญากับธนาคารเดิมก่อน ซึ่งคุณต้องรู้รายละเอียดวันที่คุณจะต้องไปทำเรื่องที่กรมที่ดิน

   เพื่อแจ้งกับธนาคารเดิมด้วย ซึ่งการอนุมัติในขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลาหลายวัน และสิ่งที่คุณต้องเตรียมไปด้วยคือ สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชน (อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามแต่ละธนาคาร) แนะนำให้โทรสอบถามรายละเอียดก่อนนัดไปยื่นไถ่ถอน

7. ทำเรื่องสัญญาที่ที่ดิน

   ขั้นตอนสุดท้ายคือ คุณและเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน ทั้งเก่าและใหม่ จะไปสัญญาจำนองที่ที่ดินในวันและเวลาที่นัดหมาย ซึ่งจะใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงจะเป็นอันเสร็จ

สมัครสินเชื่อ กับ สบายใจแคปปิตอล อนุมัติไว ไม่โอนเล่ม กู้เงินด่วนได้เงินภายในวัน เอกสารไม่เยอะ ไม่ตรวจบูโร ไม่ค้ำ รถยังมีขับ โปร่งใสและเชื่อถือได้

นึกถึงเงินก้อน ต้อง สบายใจแคปปิตอล

รีไฟแนนซ์คอนโดกับสบายใจ แคปฯ

    ทางสบายใจ แคปปิตอล มีบริการสินเชื่อรีไฟแนนซ์คอนโด สำหรับผู้ที่ต้องการจะย้ายสินเชื่อจากธนาคารเก่า ไปที่ใหม่ คุณจะได้ลดดอกเบี้ยบ้าน หรือ ผ่อนบ้านต่อเดือนถูกลง ลดระยะเวลาการผ่อนหมดไวขึ้น วงเงินกู้สูงขึ้น พร้อมด้วยช่วยปรับประวัติการผ่อนชำระใหม่หมด เรียกได้ว่าตัวช่วยในการปรับประวัติอย่างดี หากคุณสนใจ คุณสามารถส่งข้อมูลมาให้เราเพื่อเปรียบเทียบฟรี หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรีตามข้อมูลด้านล่าง

บทความล่าสุด