ประวัติการเงินไม่ดี ขอรีไฟแนนซ์ได้ไหม

คำว่า “ประวัติการเงินไม่ดี” หมายถึง คนที่มีสถานะทางการเงินหรือประวัติการชำระหนี้ที่ไม่แน่นอน อาจจะจ่ายช้าเกินกำหนดบ้าง โทรแบ่งชำระหนี้บ่อยเกินไปบ้าง หรือมีปัญหาที่ทำให้สถาบันการเงินมองว่าเป็นความเสี่ยงในการขอกู้ ตัวอย่างเช่น:

• • ค้างชำระหนี้บ่อยครั้ง: หากมีการค้างชำระหนี้หรือชำระช้าในหลาย ๆ งวด จะทำให้เครดิตไม่ดีและถูกบันทึกในระบบเครดิตบูโร
  • หนี้เสีย (NPL– Non-Performing Loan): หากมีหนี้ที่ค้างชำระจนกลายเป็นหนี้เสีย เช่น ค้างชำระเกิน 90 วัน จะส่งผลลบต่อประวัติการเงินและอาจทำให้ยากในการขอสินเชื่อใหม่หรือรีไฟแนนซ์

• • การใช้วงเงินเกิน: การใช้บัตรเครดิตหรือวงเงินสินเชื่อเกือบเต็มวงเงินบ่อยๆ
  • การฟ้องร้องทางการเงิน: การถูกฟ้องร้องหนี้สิน หรือมีการบังคับคดี

• • การล้มละลาย: ในกรณีที่ผู้ขอกู้เคยประกาศล้มละลาย จะทำให้มีข้อจำกัดในการขอสินเชื่อใหม่ในช่วงเวลาหนึ่งตามกฎหมาย
  • ข้อมูลในเครดิตบูโรที่ไม่ดี: สถาบันการเงินมักจะตรวจสอบข้อมูลในเครดิตบูโร หากพบข้อมูลไม่ดี อาจทำให้การรีไฟแนนซ์ยากขึ้น

   หากคุณไม่มั่นใจว่า ตัวเองอยู่ในเกณฑ์ของผู้ที่มีประวัติการเงินไม่ดีหรือไม่ ให้สามารถย้อนไปดูประวัติการชำระเงินของตัวได้ หรือจะโทรไปสอบถามธนาคารหรือสถาบันการเงินให้ส่งประวัติมาให้ตรวจสอบได้ ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองนั้นใช่! ให้เราย้อนกลับไปที่คำถามว่า “ประวัติการเงินไม่ดี ขอรีไฟแนนซ์ ได้ไหม” คำตอบนั้นคือ “ได้” แต่ต้องมีการพิจารณาเงื่อนไขและข้อจำกัดเพิ่มเติมที่อาจส่งผลต่อการอนุมัติจากสถาบันการเงิน โดยส่วนใหญ่ธนาคารจะมีการประเมินความเสี่ยงและอาจมีข้อกำหนดพิเศษในการอนุมัติ เช่น ดอกเบี้ยสูงขึ้น การขอหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มเติม หรือว่าการขอคนค้ำประกัน

1. 1. สถาบันการเงินที่ยืดหยุ่น: บางธนาคารหรือสถาบันการเงินอาจให้ความช่วยเหลือโดยมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยสูงขึ้น หรือระยะเวลาผ่อนชำระที่สั้นกว่า
   2. แผนการชำระเงินที่ชัดเจน: การแสดงให้ธนาคารเห็นว่า คุณมีแผนการชำระหนี้ที่สามารถจัดการได้ดี อาจเพิ่มความเชื่อมั่นให้ธนาคารในการอนุมัติ
   3. การพิจารณาผู้ให้บริการทางการเงินอื่น: เช่น บริษัทสินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร ที่อาจมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าธนาคาร

การเตรียมตัวก่อนขอกู้เงินเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติ:

1. 1. ตรวจสอบและปรับปรุงประวัติการเงิน: ขอรายงานเครดิตบูโรและแก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาด
   2. เตรียมเอกสารทางการเงิน: เช่น สลิปเงินเดือน หรือบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน เพื่อแสดงความสามารถในการจ่ายหนี้
   3. เตรียมหลักประกันหรือเงินดาวน์: หากต้องการขอกู้เงินจำนวนมาก การมีหลักประกันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับธนาคาร
   4. ลดภาระหนี้สิน: พยายามลดหนี้สินอื่น ๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต
   5. สร้างรายได้เพิ่มเติม: หากมีรายได้เสริม ควรแสดงหลักฐานรายได้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
   6. พิจารณาการขอกู้ร่วม: การขอกู้ร่วมกับคนที่มีประวัติการเงินดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติ
   7. ทำความเข้าใจเงื่อนไขจากสถาบันการเงินที่ยืดหยุ่น: หาข้อมูลและเปรียบเทียบเงื่อนไขต่างๆ จากสถาบันการเงิน
   8. จัดทำแผนการใช้เงินที่ชัดเจน: การแสดงแผนการใช้เงินจะช่วยให้ธนาคารเห็นถึงการจัดการการเงินที่ดี

นึกถึงเงินก้อน ต้อง สบายใจแคปปิตอล

สรุป

บทความล่าสุด