คนที่มีปัญหาเรื่องคะแนนเครดิตที่ไม่ดี แล้วอยากกู้สินเชื่อ แต่กังวลว่า จะกู้ไม่ผ่าน เรามีวิธีเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อสำหรับคนที่มีเครดิตไม่ดี ซึ่งสามารถทำได้หลายทาง ซึ่งการใช้ หลักทรัพย์ค้ำประกัน และ ผู้กู้ร่วม เป็นหนึ่งในแนวทางที่ดีและได้ผล โดยสามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้ธนาคารมากขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงสำหรับผู้ให้กู้ ตามไปอ่านได้ในบทความ
สมัครสินเชื่อ กับ สบายใจแคปปิตอล อนุมัติไว ไม่โอนเล่ม กู้เงินด่วนได้เงินภายในวัน เอกสารไม่เยอะ ไม่ตรวจบูโร ไม่ค้ำ รถยังมีขับ โปร่งใสและเชื่อถือได้
นึกถึงเงินก้อน ต้อง สบายใจแคปปิตอล
ผู้ที่มีประวัติสินเชื่อไม่ดีหรือคะแนนเครดิตต่ำ คือใคร
ผู้ที่มีประวัติสินเชื่อไม่ดีหรือคะแนนเครดิตต่ำ หมายถึงบุคคลที่มีประวัติการเงินที่แสดงถึงความเสี่ยงในการกู้ยืมเงิน ขอสินเชื่อหรือการชำระหนี้ เช่น การผิดนัดชำระหนี้ การชำระหนี้ล่าช้า หรือมีหนี้ค้างชำระมากเกินไปจน ใช้วงเงินเกินความจำเป็น จำนวนบัญชีมากเกินไป การขอสินเชื่อบ่อยๆ ส่งผลต่อพิจารณาความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทำให้กู้ยากมากขึ้น และอาจจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าคนที่มีเครดิตดี
วิธีเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อสำหรับคนเครดิตไม่ดี มีอะไรบ้าง
หากคุณมีประวัติเครดิตไม่ดีและต้องการเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ มีหลายวิธีที่สามารถช่วยได้ เช่น ปรับปรุงประวัติการชำระเงิน จัดการวงเงินอย่างรอบคอบ พิจารณาสินเชื่อที่มีหลักประกัน ตรวจสอบและแก้ไขรายงานเครดิต เริ่มสร้างประวัติเครดิตใหม่ เพิ่มรายได้ ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพิ่มเติม แต่ในบทความนี้เราจะเน้นไปที่การใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันและผู้กู้ร่วม
1. การใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
การใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นการใช้ทรัพย์สินที่มีมูลค่ามาค้ำประกันเงินกู้หรือสินเชื่อ ซึ่งทำให้ธนาคารมั่นใจมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารสามารถนำทรัพย์สินนั้นไปขายเพื่อชดเชยหนี้ได้ โดยทรัพย์สินที่สามารถใช้ค้ำประกันได้มีดังนี้:
-
-
- บ้าน: สามารถใช้บ้านที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัว หรือบ้านที่มีมูลค่าสูงมาเป็นหลักทรัพย์ได้
- ที่ดิน: หากมีที่ดินที่ไม่มีภาระผูกพัน สามารถนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้
- รถยนต์: รถยนต์ที่เป็นทรัพย์สินของผู้ขอกู้และมีมูลค่าสูง สามารถใช้ได้เช่นกัน
-
ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมในการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน:
-
- หลักฐานการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน: เช่น โฉนดที่ดิน, ใบทะเบียนบ้าน, เล่มทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น
- เอกสารระบุการไม่มีภาระผูกพันของทรัพย์สิน: เช่น หนังสือปลอดภาระหนี้ หรือใบปลอดจำนอง เพื่อแสดงว่าทรัพย์สินนี้ไม่มีหนี้สินหรือข้อผูกพันอื่น
- การประเมินมูลค่าทรัพย์สิน: บางกรณีธนาคารอาจต้องการการประเมินมูลค่าจากบริษัทที่ได้รับการรับรอง
- บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน: เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ขอกู้
2. การใช้ผู้กู้ร่วม (Co-signer)
การใช้ผู้กู้ร่วมที่มีประวัติเครดิตดีและรายได้ที่มั่นคงจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น เนื่องจากผู้กู้ร่วมจะมีหน้าที่รับผิดชอบหนี้ร่วมกับผู้กู้หลัก หากผู้กู้หลักไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้กู้ร่วมจะต้องรับผิดชอบแทน
ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมในการใช้ผู้กู้ร่วม:
- การเลือกผู้กู้ร่วม: ควรเลือกผู้กู้ร่วมที่มีเครดิตดีและมีรายได้ที่มั่นคง เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนที่คุณไว้วางใจและพร้อมที่จะรับผิดชอบร่วม
- แจ้งผู้กู้ร่วมเกี่ยวกับความรับผิดชอบร่วม: ผู้กู้ร่วมควรเข้าใจว่า หากผู้กู้หลักไม่สามารถชำระหนี้ได้ พวกเขาจะต้องรับผิดชอบหนี้นั้นแทน ควรพูดคุยและทำความเข้าใจในส่วนนี้อย่างชัดเจน
- เอกสารที่ผู้กู้ร่วมต้องเตรียม:
- บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้กู้ร่วม
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือนหรือใบรับรองเงินเดือน
- รายงานเครดิตของผู้กู้ร่วม เพื่อแสดงสถานะเครดิตที่ดี
- สัญญาค้ำประกัน: ธนาคารอาจจะให้ผู้กู้ร่วมลงนามในสัญญาที่มีข้อกำหนดเรื่องการค้ำประกันร่วม ซึ่งแสดงถึงความรับผิดชอบร่วมในการชำระหนี้
นึกถึงเงินก้อน ต้อง สบายใจแคปปิตอล
สรุป
โดยสรุปแล้ว การเลือกวิธีเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความพร้อมของผู้กู้แต่ละราย:
-
-
- หากผู้กู้มีทรัพย์สินที่สามารถนำมาค้ำประกันได้ เช่น บ้านหรือที่ดิน การใช้ หลักทรัพย์ค้ำประกัน จะเพิ่มความมั่นใจให้สถาบันการเงินได้มากขึ้น เนื่องจากมีสินทรัพย์รองรับในกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้
- ในกรณีที่ไม่มีทรัพย์สินค้ำประกัน การมี ผู้กู้ร่วม ที่มีเครดิตดีและรายได้มั่นคงก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ โดยเฉพาะหากผู้กู้ร่วมเป็นคนที่เชื่อถือได้ เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท
- นอกจากนี้ การใช้ ผู้ค้ำประกัน ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีทั้งทรัพย์สินค้ำประกันและผู้กู้ร่วม ผู้ค้ำประกันที่มีความน่าเชื่อถือทางการเงินสามารถสร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงินได้ว่า หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้ค้ำประกันจะเข้ามารับผิดชอบแทน
-
ผู้กู้สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด เพื่อให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อสูงสุด หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการยื่นขอสินเชื่อกับทางสบายใจ แคปปิตอล สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามข้อมูลด้านล่าง