รู้หรือไม่ หากคุณผ่อนจ่ายค่างวดรถยนต์ต่อเดือนไม่ไหวหรือต้องการ เงินด่วน เงินก้อนมาเสริมสภาพคล่อง คุณสามารถนำรถยนต์ที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่ยื่นขอสินเชื่ออีกครั้งได้ วิธีนี้เรียกว่า การรีไฟแนนซ์รถยนต์!
รีไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การขอสินเชื่อใหม่มาปิดสินเชื่อรถยนต์เดิมที่ยังไม่ได้ปิดยอดกู้ เป็นการเริ่มต้นกู้ใหม่ นับหนึ่งใหม่อีกครั้ง อาจกู้กับสถานบันการเงินเดิมหรือสถาบันการเงินใหม่ก็ได้ หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็คือการนำรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดมาขอกู้เงินอีกครั้งนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น คุณผ่อนรถยนต์ไปได้สักระยะ แล้วเริ่มผ่อนไม่ไหวหรือต้องการเงินก้อนเพื่อมาเสริมสภาพคล่อง แต่ก็ยังต้องการรถยนต์ไว้ใช้ ไม่อยากขายรถยนต์ทิ้งไปเพื่อปิดหนี้และได้เงินก้อน คุณสามารถนำรถยนต์คันนั้นมาทำการรีไฟแนนซ์เพื่อลดเงินต้นต่อเดือนลงหรือเพื่อให้ได้เงินก้อนซึ่งเป็นส่วนต่างจากยอดกู้ใหม่กับยอดเงินกู้เดิม
ข้อดีการรีไฟแนนซ์รถยนต์
- ยังผ่อนรถยนต์ไม่หมด ยังไม่ได้ปิดบัญชีเงินกู้เดิมก็สามารถขอกู้ใหม่ได้
- ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง เพราะเมื่อรีไฟแนนซ์แล้ว ระยะเวลาการผ่อนก็จะเริ่มต้นใหม่ โดยเริ่มที่ 48-84 เดือน จึงผ่อนต่อเดือนเบาลง ลดความเสี่ยงโดนยึดรถเพราะผ่อนไม่ไหว
- มีเงินก้อนเหลือมาเสริมสภาพคล่อง โดยไม่จำเป็นต้องขายรถยนต์ เป็นยอดส่วนต่างจากยอดเงินกู้เดิมกับยอดเงินรีไฟแนนซ์ใหม่
- สามารถเลือกรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินที่คิดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่เดิมได้
ข้อเสียการรีไฟแนนซ์รถยนต์
- ระยะเวลาการเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ทุกอย่างเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ นับค่างวดใหม่ที่ 1 ยืดเวลาการเป็นเจ้าของรถยนต์ออกไปอีก
- เตรียมเอกสารค่อนข้างเยอะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานบันการเงินนั้น ๆ ด้วย
การรีไฟแนนซ์รถเหมาะกับใคร
ก่อนที่จะรีบเตรียมเอกสารเพื่อไปขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ เราขอแนะนำให้คุณเช็กตัวเองก่อนว่าคุณเหมาะกับการรีไฟแนนซ์หรือไม่ ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถยนต์มักเหมาะกับเจ้าของและรถยนต์ที่มีคุณสมบัติดังนี้
- เจ้าของรถยนต์ที่ยังผ่อนรถไม่หมด แต่ต้องการลดภาระค่างวดต่อเดือนลง
- ใช้เป็นแหล่งกู้เงินฉุกเฉินได้ แม้ว่ารถจะยังติดไฟแนนซ์อยู่ก็สามารถขอกู้ได้
- รถยนต์ที่ผ่อนชำระไปแล้วมากกว่า 3 ปี หรือผ่อนชำระค่างวดไปแล้วเกินกว่าครึ่งหนึ่งของยอดหนี้ทั้งหมด
ประเภทของสินเชื่อ รีไฟแนนซ์รถยนต์
ส่วนใหญ่แล้วสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์แบบโอนทะเบียน และสินเชื่อรีไฟแนนซ์แบบไม่ต้องโอนทะเบียน ซึ่งทั้ง 2 มีจุดเด่นและความแตกต่างกันดังนี้
สินเชื่อรีไฟแนนซ์แบบโอนทะเบียน
สินเชื่อรีไฟแนนซ์แบบโอนทะเบียน คือ คุณต้องนำทะเบียนรถไปโอนเป็นชื่อของบริษัทไฟแนนซ์ โดยไฟแนนซ์ใหม่จะทำการปิดยอดกู้ที่ไฟแนนซ์เก่าให้เสียก่อนแล้วจึงโอนทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ใหม่เพื่อเป็นหลักทรัยพ์ค้ำประกันเงินกู้
สินเชื่อรีไฟแนนซ์แบบไม่โอนทะเบียน
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบไม่โอนทะเบียน คือ คุณไม่จำเป็นต้องโอนทะเบียนรถเป็นกรรมสิทธิ์ของสถาบันการเงินที่คุณต้องการกู้ทันที แต่ต้องทำเรื่องโอนลอยเอาไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
สินเชื่อรีไฟแนนซ์จาก Sabuyjai
หากคุณมองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์ Sabuyjai ก็มีบริการเช่นกัน จุดเด่นของสินเชื่อรีไฟแนนซ์จาก Sabuyjai คือ ผ่อนอยู่ก็กู้ได้ ติดไฟแนนซ์เดิมก็กู้ได้ และมีทีมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาและช่วยเลือกไฟแนนซ์ที่เหมาะกับคุณที่สุด
จุดเด่นของสินเชื่อรีไฟแนนซ์จาก Sabuyjai
ทำไมต้องสินเชื่อรีไฟแนนซ์จาก Sabuyjai ทำไมต้องรีไฟแนนซ์กับที่นี่ คำตอบก็คือ…จุดเด่นเหล่านี้
- ยอดจัดสูงถึง 150% ของราคาประเมิน
- โปะได้ ลดต้นลดดอกเบี้ย
- ผ่อนยาว ๆ ได้นานถึง 84 งวด
- ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
- ไม่ตรวจบูโร
- ได้เงินไวใน 1 วัน
- ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน
- มีสถานบันการเงินหรือไฟแนนซ์ให้เลือกถึง 6 แห่ง
ขั้นตอนรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ Sabuyjai
หากคุณสนใจรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ Sabuyjai ก็ทำได้ง่ายมาก เพราะเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้ปรึกษาและดูแลทุกขั้นตอน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้เงื่อนไขที่ดีที่สุดจากสถานบันการเงินพันธมิตรของเรา เพียงทำตามขั้นตอนนี้
- กรอกข้อมูลรถยนต์ที่ต้องการรีไฟแนนซ์ที่นี่เพื่อให้ Sabuyjai ช่วยประเมินวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นก่อน
- ส่งเอกสารแสดงรายได้และเอกสารรถยนต์ตามที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งไว้ตอนที่ติดต่อแจ้งวงเงินประเมินสินเชื่อ
- รอ Sabuyjai ดำเนินการอนุมัติวงเงิน
- รับเงินส่วนต่างเข้าบัญชี นำไปใช้จ่ายได้อย่างสบายใจ
นอกจากนี้ Sabuyjai ยังมีสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สำหรับรถยนต์ที่ผ่อนชำระหมดแล้วให้บริการเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่อนไม่ไหวหรือต้องการเงินก้อน นึกถึงบริการสินเชื่อรีไฟแนนซ์จาก Sabuyjai ที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและเพิ่มความสบายใจให้กับคุณ