การทำประกันรถมอเตอร์ไซค์เป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลาย ๆ คนมองข้ามและไม่ได้ให้ความสำคัญ แต่จริง ๆ แล้วการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์นั้นเป็นสิ่งจำเป็นมาก หากเพื่อน ๆ คิดจะออกรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งขั้นตอนการทำและรายละเอียดต่าง ๆ ของการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด สบายใจลิสซิ่งจึงจะมาเล่าให้ฟังว่า ประกันรถมอเตอร์ไซค์ นั้นมีกี่ประเภทและแต่ละประเภทมีความคุ้มครองอย่างไรบ้าง ควรจะต้องเลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง
โดยเราสามารถแบ่งประกันรถมอเตอร์ไซค์ได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
- ประกันภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. เป็นประกันที่ผู้ขับขี่ทุกคนจำเป็นต้องมี ไม่ว่าจะขับขี่รถประเภทใด ซึ่งจะคุ้มครองทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ ทั้งตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมไปถึงบุคคลที่สามด้วย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก
- ประกันภาคสมัครใจ เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่เราสามารถเลือกเองได้ว่าอยากทำหรือไม่อยากทำ ซึ่งสบายใจลิสซิ่งแนะนำให้ทำไว้ตั้งแต่แรกจะดีกว่า เพราะการขับขี่บนท้องถนนมีความเสี่ยงและอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ
ในส่วนของประกันภาคสมัครใจนั้น มีให้เลือกหลากหลาย เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1
เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุดและมีเบี้ยประกันแพงที่สุด แนะนำสำหรับ
- คุ้มครองทั้งเราและคู่กรณี
- รับผิดชอบต่อชีวิตและร่างกาย รวมไปถึงทรัพย์สินและค่ารักษาพยาบาล
- คุ้มครองในกรณีรถมอเตอร์ไซค์สูญหายหรือไฟไหม้
- คุ้มครองในกรณีลื่นล้มเอง โดยที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุหรือคู่กรณี
- มีค่าเสียหายส่วนแรก (อัตราที่ต้องจ่ายขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท)
ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+
เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความคุ้มครองคล้ายกับชั้น 1 มากที่สุด แต่เบี้ยประกันถูกกว่า จึงได้รับความนิยมมากที่สุด
- คุ้มครองทั้งเราและคู่กรณี
- รับผิดชอบต่อชีวิตและร่างกาย รวมไปถึงทรัพย์สินและค่ารักษาพยาบาล
- คุ้มครองในกรณีรถมอเตอร์ไซค์สูญหายหรือไฟไหม้
- ไม่คุ้มครองในกรณีลื่นล้มเอง โดยที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุหรือคู่กรณี
- จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ที่ทำประกัน
ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น3+
เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่แตกต่างจากชั้น 2+ เพียงเล็กน้อย ทั้งแง่ของราคาเบี้ยประกันและความคุ้มครองต่าง ๆ
- คุ้มครองทั้งเราและคู่กรณี
- รับผิดชอบต่อชีวิตและร่างกาย รวมไปถึงทรัพย์สินและค่ารักษาพยาบาล
- ไม่คุ้มครองในกรณีรถมอเตอร์ไซค์สูญหายหรือไฟไหม้
- ไม่คุ้มครองในกรณีลื่นล้มเอง โดยที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุหรือคู่กรณี
ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3
เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่ราคาเบี้ยประกันถูกที่สุด แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ เนื่องจากความคุ้มครองไม่ค่อยครอบคลุม
- คุ้มครองความเสียหายและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น
- ไม่มีความคุ้มครองให้รถคันของผู้ที่ทำประกัน
มาถึงตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าประกันรถมอเตอร์ไซค์แต่ละประเภทมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อน ๆ หลายคนน่าจะมองเห็นถึงความสำคัญของประกันรถมอเตอร์ไซค์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเราควรเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด หากมีใครคำถามหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันรถมอเตอร์ไซค์สามารถโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 066-051-0101 หรือ สบายใจ แคปปิตอล by เซ่งหลีไถ่