ในยุคปัจจุบันที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำและความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น หลาย ๆ คนอาจมีคำถามในเรื่องการกู้ยืมเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อประเภทไหนดี แต่สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก็คือ อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อ รูปแบบการคิดดอกเบี้ย และปัจจัยอื่น ๆ วันนี้ สบายใจ แคปปิตอล จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับ ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก และดอกเบี้ยคงที่ แบบเจาะลึก เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างทั้งสองประเภท และสามารถเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการชำระหนี้ของเพื่อน ๆ ได้นะคะ
ความแตกต่างระหว่าง ดอกเบี้ยลดต้น ลดดอก VS ดอกเบี้ยคงที่
ดอกเบี้ย ลดต้น-ลดดอก
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คือ รูปแบบการคิดดอกเบี้ยที่คิดตามเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด ซึ่งหมายความว่าจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละงวดจะลดลงตามจำนวนเงินต้นที่เหลืออยู่ ส่งผลให้เงินต้นลดลงเร็วขึ้น และทำให้ระยะเวลาในการชำระหนี้สั้นลง
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอก
สมมติว่าขอสินเชื่อรถยนต์ มูลค่า 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ผ่อนชำระ 12 งวด งวดละ 20,000 บาท
งวดที่ 1
- เงินต้น 1,000,000 บาท
- ดอกเบี้ย 4,166.66 บาท
- เงินที่ชำระ 20,000 บาท
- เงินต้นคงเหลือ 984,166.66 บาท
งวดที่ 2
- เงินต้นคงเหลือ 984,166.66 บาท
- ดอกเบี้ย 4,100.69 บาท
- เงินที่ชำระ 20,000 บาท
- เงินต้นคงเหลือ 952,434.01 บาท
ดอกเบี้ยคงที่
ดอกเบี้ยคงที่ คือ รูปแบบการคิดดอกเบี้ยที่อัตราดอกเบี้ยจะคงที่ตลอดระยะเวลาของสัญญาสินเชื่อ โดยทางสินเชื่อจะคำนวณดอกเบี้ยให้ทราบตั้งแต่วันที่เซ็นต์สัญญา ส่งผลให้ผู้กู้สามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ได้อย่างแม่นยำ
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยคงที่
สมมติว่าขอสินเชื่อบ้าน มูลค่า 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี ผ่อนชำระ 30 ปี
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายตลอด 30 ปี เท่ากับ [1,000,000 บาท x 5%ต่อปี x 30 ปี] = 1,500,000 บาท
ยอดผ่อนแต่ละเดือนประกอบส่วนดอกเบี้ย [1,500,000 ÷ 360 เดือน] = เดือนละ 4,166.66 บาททุกเดือน
และส่วนเงินต้น [1,000,000 ÷ 360 เดือน] = เดือนละ 2,777.77 บาท
ทุกงวดจะมีอัตราดอกเบี้ย 5% และเงินต้นที่ชำระเท่ากันอยู่ที่ 6,944.44 บาท
จะเห็นได้ว่าในทุก ๆ เดือนจะมียอดชำระที่เท่ากันจบครบสัญญา ดอกเบี้ยคงที่จะเหมาะกับสินเชื่อประเภทที่ระยะเวลาในการชำระหนี้ยาว เช่น สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อธุรกิจ เป็นต้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ตลอดระยะเวลาของสัญญา ทำให้ผู้กู้สามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ได้อย่างแม่นยำ
ควรเลือกดอกเบี้ยแบบไหน
ผู้กู้ควรเลือกวิธีการคำนวณดอกเบี้ยที่เหมาะกับสถานะการเงินและวัตถุประสงค์ของตัวเองนะคะ เช่น ถ้าหากต้องการชำระหนี้เร็วๆ และไม่ต้องการจ่ายดอกเบี้ยมากเกินไป ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมันช่วยให้ชำระเงินต้นได้เร็วขึ้น
แต่ถ้าต้องการความคงที่ในการชำระเงินและสามารถรับผิดชอบดอกเบี้ยคงที่ ดอกเบี้ยคงที่อาจเหมาะสม
ส่วนการเลือกสินเชื่อแบบไหนดีต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า และความสะดวกในการชำระค่างวดอย่างที่กล่าวมาข้างต้น
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างดอกเบี้ย ลดต้น-ลดดอกกับดอกเบี้ยคงที่
เกณฑ์ | ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก | ดอกเบี้ยคงที่ |
การคำนวณดอกเบี้ย | คิดจากจำนวนเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด | คิดจากอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาของสัญญา |
ระยะเวลาในการชำระหนี้ | น้อย | มาก |
ความผันผวนของค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ | สูงขึ้น | ลดลง |
ความคุ้มค่า | มาก | น้อย |
สรุป
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกและดอกเบี้ยคงที่ เป็นรูปแบบการคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ผู้ขอสินเชื่อควรพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะเวลาในการชำระหนี้ ความผันผวนของค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ และความเสี่ยง เป็นต้น เพื่อให้สามารถเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเองได้
เพื่อนๆได้รู้จักกับดอกเบี้ยลดต้นลดดอก และดอกเบี้ยคงที่แล้ว หากกำลังมองหาสินเชื่อแบบลดต้นลดดอก ทางบริษัทสบายใจแคปปิตอล จำกัด ก็มีให้บริการนะ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.56% ผ่อนสบายไม่ต้องมีคนค้ำ เพื่อนๆสามารถเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย มาพร้อมบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดีตลอดอายุการใช้งานสินเชื่อ
ส่วนใครที่กำลังมองหาแหล่งสินเชื่อทางสบายใจก็มีบริการด้านสินเชื่อครบวงจร สมัครได้ทุกอาชีพ หากสนใจสามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่เฟสบุ๊ค สบายใจ แคปปิตอล by เซ่งหลีไถ่ หรือโทร 066-051-0101