ปัจจุบันความสามารถในการชำระหนี้ของคนไทย พบว่ามีแนวโน้มลดลง เนื่องจากรายได้ของคนส่วนใหญ่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้น จึงทำให้มีปัญหาตามมานั่นคือ หลาย ๆ คนที่ได้ขอสินเชื่อกับทางสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการอื่นๆ จ่ายหนี้ช้า ผิดนัดชำระ ในบทความนี้สบายใจ แคปปิตอลได้รวบรวมเหตุการณ์ สถานการณ์ หรือการคาดการณ์ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น หากเราจำเป็นที่จะต้อง จ่ายหนี้ช้า หรือผิดนัดชำระ รวมถึงเคล็ดลับการบริหารหนี้เอาไว้ให้ด้วย ตามไปอ่านกันเลย
ผลกระทบจากการผิดนัดชำระ หรือ จ่ายหนี้ช้า
1. มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ถ้าคุณผิดนัดชำระหนี้จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะสถาบันการเงินจะเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระ รวมไปถึงค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้อีกด้วย
ซึ่งอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระจะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติ อาจเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 2-3% ต่อเดือน หรือ 24-36% ต่อปี จากดอกเบี้ยที่ระบุไว้ในสัญญาตอนต้น
การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ จะเริ่มต้นนับจากวันที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เป็นต้นไป โดยอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระจะคิดเพิ่มทบต้นกับเงินต้นที่ค้างชำระอยู่
2. ติดบูโร
คุณจะเสียประวัติเครดิต หรือเรียกว่า ติดบูโร ประวัติเสียเครดิต หรือเครดิตเสียจะถูกบันทึกลงในรายงานข้อมูลเครดิต ซึ่งสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้จะใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อหรือกู้ยืมเงินในอนาคต
หากมีประวัติเสียเครดิต อาจถูกสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้ปฏิเสธการกู้ยืมเงินได้ หรือกำหนดเงื่อนไขในการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า หรือวงเงินสินเชื่อที่น้อยกว่าเดิม
3. ฟ้องล้มละลาย
คุณอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หากมีการค้างชำระหนี้เป็นเวลานาน ทางสถาบันการเงินจะส่งหนังสือทวงถามไปยังลูกหนี้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ จะทำการฟ้องร้องต่อลูกหนี้ และอาจถูกตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลาย
วิธีรับมือ เมื่อหากคุณจำเป็นต้องผิดนัดชำระหรือ จ่ายหนี้ช้า
หากพบว่าตัวเองกำลังมีปัญหาในการชำระหนี้ ควรรีบหาวิธีจัดการอย่างเร่งด่วน โดยอาจทำตามขั้นตอนดังนี้
- ติดต่อสถาบันการเงินต้นสังกัด เพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้ หรือ ขอปรับโครงสร้างหนี้
- หารายได้เพิ่ม เพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อลดภาระหนี้สิน
เคล็ดลับในการบริหารหนี้ ไม่ให้เกิดการ “จ่ายหนี้ช้า”
การชำระหนี้คืนตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายและปัญหาต่างๆ ตามมาได้นะคะ
- วางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ โดยจัดสรรเงินเดือนส่วนหนึ่งไว้สำหรับชำระหนี้ หรือลองหาแอพพลิเคชันที่ช่วยเก็บเงินอย่างเช่น แอพ Make ที่มีการแบ่งสัดส่วนของเงินในบัญชีอย่างชัดเจน แล้วยังสามารถล็อกเงินส่วนนั้นไว้ไม่ให้ใช้ได้อีกด้วย
(ตามไปอ่านวิธีการบริหารเงินในครอบครัวเพิ่มเติมได้ที่นี่) - จดบันทึกการชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้พลาดกำหนดการชำระหนี้
- ลองตั้งกฏการใช้บัตรรูดสินค้า ว่า จะรูดซื้อก็ต่อเมื่อเรามีเงินคืนเต็มจำนวน หลังจากรูดซื้อทันที ไม่ใช่ว่า รอเงินเดือนเข้าถึงจะเป็นเงินคืนในส่วนนี้
- หากเป็นหนี้บัตรเครดิต ลองเข้ากลุ่มเฟสบุ๊ค เพื่อหาข้อมูลในการช่วยบริหารหนี้เพิ่มเติมได้ เช่น โปรบัตร รูดซื้อคืนเงิน หรือได้ส่วนลดต่าง ๆ ที่จะมาช่วยแบ่งเบาหนี้ได้
สรุป
จ่ายหนี้ช้าหรือผิดนัดชำระ เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะส่งผลเสียต่อทั้งตัวลูกหนี้และสถาบันการเงิน หากพบว่าตัวเองกำลังมีปัญหาในการชำระหนี้ ควรรีบหาวิธีจัดการอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามไปมากกว่านี้ สบายใจแคปปิตอลก็เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการสินเชื่อ ที่เข้าใจและพร้อมช่วยเหลือลูกค้าที่มีหนี้สิน โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อช่วยลูกค้าบริหารจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับลูกค้าที่มีประวัติเสียเครดิต สามารถขอสินเชื่อกับบริษัท สบายใจ ได้นะคะ สอบถามเพิ่มเติมได้ทาง เฟสบุ๊ค สบายใจ แคปปิตอล by เซ่งหลีไถ่ หรือโทร 066-051-0101